top of page

ที่นอนไม่หลับไม่ได้เพราะคิดถึงใคร แต่อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม



โรคนอนไม่หลับเป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก มีลักษณะเฉพาะคือหลับยากหรือหลับยาก ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนอย่างมาก แม้ว่าสาเหตุของการนอนไม่หลับจะหลากหลาย


แต่การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอาจมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดการพัฒนาของโรคนี้การวิจัยได้ระบุยีนเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการนอนไม่หลับ เช่น PER2 ซึ่งควบคุมการหลับ-ตื่น รอบ การศึกษาพบว่าผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนอนไม่หลับมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้มากขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าปัจจัยทางพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการพิจารณาความอ่อนแอของเราต่อโรคนอนไม่หลับ


ศาสตราจารย์ ฟิลลิป เกอร์มัน (Dr. Philip Gehrmana) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาเเห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลลเวเนีย ได้คาดการณ์ผลของการศึกษาจากทีมวิจัยว่าเซลล์สมองนิวตรอนของอาสาสมัครจะตื่นตัวมากแค่ไหนเมื่อทำการทดสอบกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการนอนไม่หลับ โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าพันธุกรรมตัวเกี่ยวข้องมากที่สุดกับโรคนอนไม่หลับมีชื่อว่า MEIS1 ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่าเป็นต้นเหตุของอาการบกพร่องของการนอนหลับประเภทอื่น


ศาสตราจารย์ ฟิลลิป เกอร์มัน กล่าวว่า ผลการศึกษานี้ช่วยสร้างความเข้าใจมากขึ้นอย่างมากเกี่ยวกับพันธุกรรมของโรคนอนไม่หลับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทีมนักวิจัยยังต้องเรียนรู้อีกมาก


ความเชื่อมโยงระหว่างพันธุกรรมกับโรคนอนไม่หลับนั้นซับซ้อนและไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การวิจัยชี้ให้เห็นว่าปัจจัยทางพันธุกรรมอาจเปลี่ยนแปลงวิธีที่ร่างกายของเราควบคุมการนอนหลับ ทำให้คนเป็นโรคนอนไม่หลับได้ง่ายขึ้น


นอกจากนี้ อาการนอนไม่หลับอาจเกี่ยวข้องกับภาวะทางพันธุกรรมอื่นๆ เช่น โรคขาอยู่ไม่สุข (RLS), โรคลมหลับ และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สภาวะเหล่านี้สามารถรบกวนรูปแบบการนอนหลับของบุคคล ซึ่งนำไปสู่การอดนอนเรื้อรังและความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ เพิ่มขึ้น


แม้ว่าพันธุกรรมอาจมีบทบาทในการพัฒนาอาการนอนไม่หลับ แต่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็สามารถทำให้ความผิดปกตินี้รุนแรงขึ้นได้เช่นกัน ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และปัจจัยในการดำเนินชีวิต เช่น การบริโภคคาเฟอีนและการขาดการออกกำลังกายล้วนมีส่วนทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ


6 เทคนิคง่ายๆ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ

  1. จัดที่นอนให้เหมาะสม สบายเหมาะแก่การนอน เงียบสงบ อุณหภูมิที่เย็นสบายพอเหมาะ ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด

  2. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนนอน เช่น การนวด การแช่น้ำอุ่น

  3. หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน หรือการใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมในช่วงกลางวัน

  4. เมื่อรู้สึกง่วงจะต้องเข้านอนทันที เข้านอนให้เวลานั้นเหมือนกันทุกคืน

  5. หากนอนไม่หลับ ให้ไปทำกิจกรรมเบาๆ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือนั่งสมาธิ

  6. ใช้กลิ่นเข้ามาช่วยในการนอนหลับ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นยูคาลิปตัส หรือกลิ่นคาโมมายล์ ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด และผ่อนคลาย


การรักษาโรคนอนไม่หลับที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมอาจต้องใช้วิธีการเฉพาะบุคคล การทดสอบทางพันธุกรรมสามารถช่วยระบุวิธีการรักษาแบบเฉพาะบุคคล การรักษาโรคนอนไม่หลับโดยทั่วไปประกอบด้วยการผสมผสานระหว่างเทคนิคสุขอนามัยการนอนหลับ การบำบัด การเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตและการใช้อาหารเสริมบางชนิดที่ช่วยในการนอนหลับ


เช่นสารสกัดจากธรรมชาติ อย่าง แมกนีเซียม คาโมมายล์ เชอร์รี่ทาร์ต แอล-ธีอะนีน และกาบา ซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลในสมอง ทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ส่งผลให้คุณสามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของอาการนอนไม่หลับ บุคคลที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนอนไม่หลับมักมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคนี้ หากคุณมีอาการนอนไม่หลับ สิ่งสำคัญคือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ


ถ้าใครที่กำลังมีอาการนอนไม่หลับ และกำลังมองหาตัวช่วยให้การนอนมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่กับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต


DreamVita ได้รวบรวมสารสกัดคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น Tart cherry จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุดใน สหรัฐอเมริกา และ Magnesium ฟอร์มที่ดูดซึมง่ายและสารสกัดอื่นๆไม่ว่าจเป็น GABA, L-theanine, Chamomile, Glycine, Lemon balm ที่สำคัญปราศจากส่วนผสมของเมลาโทนินและไม่ใช่ยานอนหลับ พร้อมดูแลการนอนของคุณภายในหนึ่งแคปซูล


หากคุณเป็นผู้ที่กำลังมีปัญหาด้านการนอนหลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถทักมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนของเราเพื่อรับคำแนะนำดีๆเพิ่มเติมได้ที่ Line OA : @pealicious or https://lin.ee/ileGPLS⁠

Comments


Recent Posts
Archive
bottom of page